แน่นอนว่าคุณภาพที่ดีที่สุดของเต็นท์สนามก็ตอนที่ซื้อมาใหม่แกะกล่อง แต่พอใช้ไปนานๆ ต้องไปเจอกับสภาพแวดล้อมที่เราไม่สามารถคาดเดาไม่ได้ ทั้งลม ฝน หรือน้ำค้าง จึงทำให้คุณภาพเต็นท์เริ่มลดระดับลงเรื่อย ๆ ตามอายุการใช้งาน และอีกสิ่งหนึ่งที่มีผลต่ออายุการใช้งานของเต็นท์สนาม นั่นก็คือการทำความสะอาดและลักษณะการจัดเก็บเต็นท์นั่นเอง วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลรักษาเต็นท์เพื่อยืดอายุการใช้งานมาฝากกันครับ

—————————————————————-

1. ไม่ใช้ผงซักฟอกทำความสะอาด เนื่องจากผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาด มีสารเคมีที่ส่งผลทำให้สารเคลือบบนผ้าเต็นท์เสียหายได้ การล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าจึงดีที่สุด

—————————————————————-

2. ไม่ใช้น้ำที่มีแรงดันสูงในการล้าง เพราะความแรงของน้ำที่เราฉีดลงไปบนเนื้อผ้าเต็นท์นั้น จะทำลายสารเคลือบกันน้ำที่อยู่ด้านในของเต็นท์ให้หลุดร่อน เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร วิธีที่ดีที่สุดคือการล้างด้วยน้ำไหลผ่านและใช้มือค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดบริเวณที่เปื้อน

—————————————————————-

3. ไม่เก็บเต็นท์ในสภาพที่อับชื้น หลายครั้งที่เราจำเป็นต้องแพ็คเต็นท์กลับบ้านทั้ง ๆ ที่ยังเปียกชื้นอยู่ แม้ความชื้นเพียงเล็กน้อย แต่หากปล่อยให้เต็นท์อยู่ในสภาพนั้นเป็นเวลานานก็อาจทำให้เกิดเชื้อรา กลิ่นเหม็นอับ และเนื้อผ้าเปื่อยยุ่ยได้ ดังนั้น หลังจากกลับมาแล้วควรรีบทำความสะอาดและหาที่แขวนตากเอาไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก

—————————————————————-

4. ไม่เก็บเต็นท์ในที่มีแสงแดด เพราะแสงแดดจะทำให้ผ้าเต็นท์แห้ง กรอบ เสื่อมสภาพได้ง่าย

—————————————————————-

5. ไม่พับเก็บเต็นท์ใส่ไว้ในแพ็คเดิม เต็นท์ที่บรรจุมาในแพ็คนั้น หมายถึงอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ในการออกทริป แต่หลังจากใช้งานแล้วในแต่ละครั้ง เมื่อทำความสะอาดเสร็จ เราไม่ควรจะนำไปเก็บไว้ในแพ็คเดิม เนื่องจากการม้วนเก็บให้อยู่ในลักษณะนั้นนาน ๆ เนื้อผ้าจะถูกบีบอัด เกิดรอยยับและหลุดร่อนของสารเคลือบกันน้ำบนผ้าเต็นท์ การนำออกมาพับเก็บข้างนอกเพื่อช่วยให้ผ้ามีการคลายตัวจะช่วยยืดอายุการใช้งานเต็นท์และเสาเต็นท์ออกไปได้นาน

• อ่านเพิ่ม : วิธีเก็บเสาเต็นท์อย่างถูกวิธีเพื่อยืดอายุการใช้งาน